เกาะมุกต์
เกาะมุกต์ ลักษณะของเกาะ ส่วนใหญ่เป็น โขดผาสูงตระหง่าน หันหน้าออกสู่ทะเลใหญ่ทางด้านทิศตะวันตก หมู่บ้านชาวประมงจะอยู่ทางฝั่งตะวันออกของตัวเกาะ ซึ่งหันหน้าเข้า แผ่นดินใหญ่หน้าผาโขดหินสูง เป็นที่อาศัยของนกนางแอ่นและได้ซุกซ่อนถ้ำมรกต หรือถ้ำน้ำซึ่งมีความงดงามตระการตา ได้อย่างมิดชิดถ้ำมรกต นี้จะเข้าออก ได้เฉพาะ ช่วงน้ำลงเท่านั้น โดยปากถ้ำเป็นโพรงเล็กๆ สูงพ้นระดับน้ำพอเรือลอดได้ พ้นปากถ้ำเข้าไปเป็นเส้นทางคดโค้งระยะทางประมาณ 80 เมตร เมื่อพ้น ปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเป็นหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผา สูงชันที่มีฟ้า สีครามเป็น หลังคาและผนังแต่งแต้มด้วยลายเขียวของใบไม้ โพรงที่ลอดเข้าถ้ำมรกต จะอยู่ทางด้าน ทิศตะวันตกของตัวเกาะ
เกาะมุกต์เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของท้องทะเลตรัง มีชมชนชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่บนเกาะมานานแล้ว ปัจจุบันชาวบ้านส่วนใหญ่ยังทำประมงขนาดเล็กด้วยเรือหางยาว มีจำนวนเรือมากกว่าเกาะอื่นๆ รวมถึงสวนยางพาราและสวนมะพร้าวด้วย จุดเด่นของเกาะมุกคือ ถ้ำมรกต ถ้ำน้ำเล็กๆซึ่งมึความยาวประมาณ 80 เมตร นักท่องเที่ยวต้องลอยตัวฝ่าความมืดเพื่อเข้าไปพบกับห้องโถงไร้หลังคาขนาดใหญ่ภายในนี่เองเรียกว่าถ้ำมรกต น้ำทะเลภายในห้องโถงนี้มีสีเขียวใสราวมรกตทรายก็ขาวละเอียดมาก เหมาะแก่การพักผ่อนชมทัศนียภาพอย่างยิ่ง
การเดินทาง : จากท่าเรือควนตุ้งกู มีเรือโดยสารออกวันละเที่ยวช่วงเช้า หรือจะเหมาเรือหางยาวขนาดใหญ่ไปก็ได้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ขึ้นเกาะมุกที่ท่าเรือสะพานยาวด้านหน้าเกาะ จากนั้นต้องเช่าเรือหางยาวเพื่อไปเที่ยวถ้ำมรกตซึ่งอยู่ด้านหลังเกาะ หรือจะเลือกใช้บริการแพ็กเกจทัวร์ One Day Tour ที่ท่าเรือปากเมงก็ได้
เกาะมุกต์ยังคงสงบเงียบ คงความเป็นธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชาวเกาะ ทำให้เกาะมุกดูมีเสน่ห์เอามาๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ชอบความวุ่นวายใดๆ เพราะแม้จะเปิดให้ท่องเที่ยว แต่ว่าวิถีชีวิตของชาวบ้านบนเกาะ ก็ยังคงดำเนินต่อไปให้เราได้ชื่นชม ทั้งวิถีชาวประมง และวิถีของชาวสวนยางพาราและสวนมะพร้าว ชาวบ้านที่นี่ก็ยังดำเนินชีวิตไปตามแบบฉบับเดิม ที่เคยมีอยู่ จะมีเพิ่มเติมก็ในส่วนของกิจการร้านอาหาร รีสอร์ทบ้านพักโฮมสเตย์ ที่เข้ามาบริการนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมเยือนก็เท่านั้น